การปกป้องบัญชีของคุณจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การเพิ่มชั้นความปลอดภัยหลายชั้นจะช่วยลดความเสี่ยงที่บัญชีของคุณจะถูกละเมิด และช่วยให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณปลอดภัย
มาตรการความปลอดภัยที่สำคัญ
เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA)
การยืนยันตัวตนสองขั้นตอนจะเพิ่มขั้นตอนการยืนยันเพิ่มเติมนอกเหนือจากรหัสผ่านของคุณ ฟีเจอร์ความปลอดภัยนี้จะขอให้คุณยืนยันตัวตนด้วยวิธีที่สอง เช่น รหัสที่ส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณ หรือรหัสที่สร้างโดยแอปยืนยันตัวตน ซึ่งทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงบัญชีของคุณได้ยากมากขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะรู้รหัสผ่านของคุณก็ตาม
ใช้กุญแจความปลอดภัยและ passkey
กุญแจความปลอดภัยให้การปกป้องที่แข็งแกร่งที่สุดจากการโจมตีแบบฟิชชิ่งและการยึดบัญชี[5] ปัจจุบัน passkey สมัยใหม่ให้คุณเข้าสู่ระบบด้วยการยืนยันตัวตนทางไบโอเมตริกซ์ เช่น Face ID, Touch ID หรือรหัสผ่านอุปกรณ์ของคุณ โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านแบบเดิม ๆ และยังให้ความปลอดภัยที่เหนือกว่า[5]
ตั้งค่าตัวเลือกการกู้คืนบัญชี
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีหลายวิธีในการเข้าถึงบัญชีของคุณอีกครั้งหากคุณถูกล็อก:
- เพิ่มอีเมลกู้คืนที่เชื่อถือได้
- ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการกู้คืนผ่าน SMS
- ตั้งค่าตัวเลือกการยืนยันตัวตนสำรอง
ฟีเจอร์การปกป้องขั้นสูง
เปิดใช้งานโปรแกรมความปลอดภัยขั้นสูง
หลายแพลตฟอร์มมีโปรแกรมปกป้องขั้นสูงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้งานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น นักข่าว นักเคลื่อนไหว หรือผู้ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีขั้นสูง[5] โปรแกรมเหล่านี้มักจะประกอบด้วย:
- ข้อกำหนดการใช้กุญแจความปลอดภัยที่บังคับ
- การป้องกันการดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้น
- การควบคุมการเข้าถึงแอปที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
- ขั้นตอนการยืนยันเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินการที่สำคัญ
ตรวจสอบการเข้าถึงจากแอปของบุคคลที่สาม
ตรวจสอบเป็นประจำว่าแอปและบริการใดบ้างที่สามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีของคุณ[2] ยกเลิกการเข้าถึงสำหรับแอปที่คุณไม่ได้ใช้แล้วหรือแอปที่ใช้วิธีการยืนยันตัวตนที่ไม่ปลอดภัย ช่วยป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริการของบุคคลที่สามที่ถูกเจาะ
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของบัญชี
อัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์และแอปของคุณอัปเดตซอฟต์แวร์และแพตช์ความปลอดภัยล่าสุดอยู่เสมอ เบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการสมัยใหม่มีระบบป้องกันในตัวที่สแกนหาภัยคุกคามโดยอัตโนมัติและบล็อกเนื้อหาที่เป็นอันตราย
ตรวจสอบกิจกรรมบัญชี
ตรวจสอบประวัติการเข้าสู่ระบบและเหตุการณ์ความปลอดภัยของบัญชีของคุณเป็นประจำ แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มักมีบันทึกรายละเอียดแสดงเวลาที่มีการเข้าถึงบัญชีและจากที่ใด ช่วยให้คุณตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัยได้อย่างรวดเร็ว
ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน
สร้างรหัสผ่านที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละบัญชี พิจารณาใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่านที่น่าเชื่อถือเพื่อสร้างและเก็บรหัสผ่านให้ปลอดภัย
เมื่อคุณใช้มาตรการความปลอดภัยเหล่านี้ คุณจะสร้างอุปสรรคหลายชั้นเพื่อปกป้องบัญชีของคุณจากการโจมตีหลายรูปแบบ รวมถึงการโจมตีด้วย credential stuffing, ฟิชชิ่ง และบอตอัตโนมัติ[3] โปรดจำไว้ว่าความปลอดภัยของบัญชีเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินต่อเนื่อง—การตรวจสอบและอัปเดตมาตรการปกป้องของคุณอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยอยู่เสมอ